กองทรัสต์ ‘KTBSTMR’ ลงสนามเทรดวันแรก นักลงทุนมั่นใจศักยภาพสินทรัพย์ 5 โครงการ ชูประมาณการเงินจ่ายแก่ผู้ถือหน่วยปีแรก 7.02% ชี้ผลตอบแทนดีท่ามกลางเศรษฐกิจผันผวน

15 Nov 2021

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เคทีบีเอสที มิกซ์ เข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้ชื่อย่อ KTBSTMR นักลงทุนให้การตอบรับอย่างต่อเนื่อง ทั้งนักลงทุนสถาบันและรายย่อย ในการเสนอขายหน่วยทรัสต์ที่ผ่านมา ชูศักยภาพทรัพย์สินที่ลงทุนครั้งแรกใน 5 โครงการ กระจายตัวหลากหลายประเภท พร้อมจุดเด่นมีหลักประกันในทรัพย์สินที่ลงทุน ตอกย้ำประมาณการเงินจ่ายแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในปีแรกที่ 7.02%

นายพลสิทธิ ภูมิวสนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคทีบีเอสที รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้ก่อตั้งทรัสต์และผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เคทีบีเอสที มิกซ์ หรือ ‘KTBSTMR’ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความมั่นใจในศักยภาพกองทรัสต์ KTBSTMR ที่เข้าลงทุนครั้งแรกในสิทธิการเช่าระยะยาว 30 ปี ของทรัพย์สิน 5 โครงการ มูลค่ากองทรัสต์รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 3,015 ล้านบาท คาดได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการเปิดประเทศ เนื่องจากมีการลงทุนในทรัพย์สินหลากหลายประเภท โดยเฉพาะคลังสินค้า ได้แก่ โครงการริช แอสเซ็ท, โครงการเอสที บางบ่อ และ โครงการเอสที บางปะอิน ที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีเป็นย่านศูนย์กลางของอุตสาหกรรมการผลิต และสามารถเชื่อมต่อระบบการขนส่งที่หลากหลาย ตลอดจนกระจายฐานการผลิตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงสำนักงานโครงการ ‘ซัมเมอร์ฮับ’ (Summer Hub) และคอมมูนิตี้มอลล์โครงการ ‘ซัมเมอร์ฮิลล์’ (Summer Hill) ที่ตั้งอยู่ในย่านสุขุมวิท ซึ่งเป็นย่านชุมชุนของที่อยู่อาศัย และสำนักงานที่จะสามารถตอบสนองไลพ์สไตล์ของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ กองทรัสต์ KTBSTMR จะนำทรัพย์สินดังกล่าวไปจัดหาผลประโยชน์ โดยการให้เช่า และ/หรือ การให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับการให้เช่าหรือให้ใช้พื้นที่ และอื่น ๆ เพื่อประโยชน์ของอสังหาริมทรัพย์ฯ ก่อให้เกิดรายได้และผลตอบแทนแก่กองทรัสต์และผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างสูงสุด ทั้งนี้ ได้แต่งตั้ง (1) บริษัท ริช แอสเซ็ท เซ็นเตอร์ จำกัด หรือ “RAC” และ (2) บริษัท เอสที พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ โลจิสติกส์ จำกัด หรือ “STPL” ให้เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ (Property Manager) เพื่อดำเนินการจัดหาผลประโยชน์และบริหารทรัพย์สินที่กองทรัสต์เข้าลงทุนครั้งแรก

สำหรับนโยบายการจ่ายประโยชน์ตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ KTBSTMR ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วของรอบปีบัญชี แบ่งเป็น ประโยชน์ตอบแทนสำหรับรอบปีบัญชี (Year-End Distribution) และประโยชน์ตอบแทนระหว่างกาล (Interim Distribution) ในแต่ละไตรมาส (หากมี) ไม่เกิน 4 ครั้งต่อรอบปีบัญชี ทั้งนี้ ประมาณการอัตราเงินจ่ายผู้ถือหน่วยทรัสต์จะได้รับในปีแรก ตามประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ตามงบกำไรขาดทุนตามสมมติฐาน (1 ต.ค. 2564 ถึง 30 ก.ย. 2565) และการลดทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ อยู่ที่ร้อยละ 7.02

นายฐิติพัฒน์ ทวีสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ เปิดเผยว่า กองทรัสต์ KTBSTMR มีจุดเด่นที่แตกต่างจากกองทรัสต์อื่น ๆ คือการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภทอุตสาหกรรม โดยแต่ละโครงการมีลักษณะที่แตกต่างกันในหลายมิติ ทั้งขนาดโครงการตั้งแต่เล็ก กลาง ใหญ่ ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ มีการออกแบบตัวโครงการและจัดสรรพื้นที่ใช้สอยไว้เป็นอย่างดี ประกอบกับมุ่งเน้นการจัดหาผู้เช่าที่มีคุณภาพสูง พร้อมบริหารกลุ่มผู้เช่า (Tenant Mix) ให้กระจายตัวได้อย่างเหมาะสม ทำให้เกิดการกระจายความเสี่ยงจากผลการดำเนินงาน นอกจากนี้ ยังมีหลักประกันในทรัพย์สินที่ลงทุน (สิทธิการเช่าของกองทรัสต์ฯ) เพื่อป้องกันในกรณีที่ผู้ให้เช่าผิดสัญญากับกองทรัสต์ฯ โดยหลักประกันที่ผู้ให้เช่าวางประกันให้กับกองทรัสต์ฯ ได้แก่ (1) การจดทะเบียนหลักประกันสิทธิการเช่าที่ดินและจดจำนองอาคารและสิ่งปลูกสร้างทรัพย์สินที่เป็นคอมมูนิตี้มอล และสำนักงาน และ (2) การจดจำนองกรรมสิทธิ์ในอาคารและกรรมสิทธิ์ในที่ดินในทรัพย์สินที่เป็นคลังสินค้าและโรงงาน เพื่อให้ผู้ลงทุนมั่นใจได้ว่าโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 5 โครงการที่ได้เข้าลงทุนจะมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างมีศักยภาพ เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอให้แก่นักลงทุนในระยะยาวต่อไป

นายพรเทพ ตังคเศรณี กรรมการ บริษัท ดิสคัฟเวอร์ แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า กองทรัสต์ KTBSTMR มีมูลค่าการลงทุนครั้งแรก 3,010.50 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างคึกคักจากนักลงทุนในช่วงที่เสนอขายหน่วยทรัสต์และปิดการจองซื้อได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของกองทรัสต์และทรัพย์สินในโครงการ ประกอบกับ กลุ่มบริษัท STP&I ได้ขยายสัดส่วนการเข้าลงทุนในฐานะเจ้าของทรัพย์สิน (Sponsor) กองทรัสต์ KTBSTMR เพิ่ม จากเดิมร้อยละ 5 เป็นไม่เกินร้อยละ 30 ของมูลค่ากองทรัสต์ (จำนวน 3,015 ล้านบาท) หรือลงทุนได้ในวงเงินรวมกันไม่เกินประมาณ 904.5 ล้านบาท เป็นระยะเวลาประมาณ 1.5 ปี หรือจนกว่า KTBSTMR จะมีการเพิ่มทุนเพื่อลงทุนซื้อทรัพย์สินเพิ่มเติม ถือเป็นการตอกย้ำได้เป็นอย่างดีว่าสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้กองทรัสต์ KTBSTMR จะมีศักยภาพการเติบโตของรายได้ค่าเช่าต่อเนื่อง และกองทรัสต์มีผลตอบแทนที่ดึงดูดต่อการลงทุน พร้อมให้ความเชื่อมั่นนักลงทุนในการดูแลและบริหารสินทรัพย์ เพื่อสร้างรายได้ค่าเช่ามั่นคงต่อเนื่อง